CFDs are complex instruments and come with a high risk of losing money rapidly due to leverage. 66% of retail investor accounts lose money when trading CFDs with this provider.

You should consider whether you understand how CFDs work and whether you can afford to take the high risk of losing your money.

Please be advised that our Client Portal is scheduled for essential maintenance this weekend from market close Friday 16th February, 2024, and should be back up and running before markets open on Sunday 18th February, 2024.

เรายินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่าเรากำลังเตรียมพร้อมสำหรับการอัปเดต Client Portal เพื่อมุ่งเน้นที่จะปรับปรุงประสบการณ์ของคุณกับเรา
Client Portal จะไม่พร้อมให้คุณใช้งานตั้งแต่ตลาดปิดใน วันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 และควรสำรองข้อมูลและทำงานก่อนตลาดเปิดให้บริการใน วันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567

CFDs are complex instruments and come with a high risk of losing money rapidly due to leverage. 66% of retail investor accounts lose money when trading CFDs with this provider.

You should consider whether you understand how CFDs work and whether you can afford to take the high risk of losing your money.

Search
Close this search box.

นโยบายทางการเงินที่ส่งผลต่อตลาด Forex อย่างไร

Monetary policy written in search bar with the financial data visible in the background

ตลาด Forex หรือ FX นั้นได้รับผลกระทบจากหลายๆ ปัจจัย เหมือนกับที่สกุลเงินได้รับผลกระทบจาก:

 

ถึงแม้นี่จะไม่ใช่รายการปัจจัยที่ครบถ้วน แต่ปัจจัยเหล่านี้คือตัวขับเคลื่อนหลักในตลาด Forex เราจะมาพิจารณาผลกระทบของนโยบายทางการเงินที่มีต่อตลาด FX ให้ละเอียดมากขึ้น

สิ่งที่เราทำการศึกษา:

 

นโยบายทางการเงินคืออะไร

 

นโยบายทางการเงินคือชุดเครื่องมือทางเศรษฐกิจ โดยส่วนใหญ่แล้วธนาคารกลางของประเทศมักเป็นผู้ควบคุม (ในนามของรัฐบาล) ซึ่งใช้เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

และรับรองการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยรวมแล้ว นโยบายทางการเงินเป็นตัวควบคุมปริมาณเงินในเศรษฐกิจซึ่งมีการบังคับใช้ในหลายภาคส่วนของเศรษฐกิจ รวมไปถึงผู้บริโภค เอกชนและภาคธนาคาร เมื่อปรับเครื่องมือต่างๆ เหล่านี้ (ซึ่งเราจะไปดูกันด้านล่าง) ธนาคารกลางก็สามารถชักจูงเศรษฐกิจเพื่อให้มีอัตราการเติบ

 

ประเภทของนโยบายทางการเงิน

 

นโยบายทางการเงินมีสองประเภทหลักคือแบบผ่อนคลายและแบบเข้มงวด

Types of Monetary Policies

นโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลาย

 

หากการเติบโตของเศรษฐกิจช้าลงเนื่องจากมีอัตราว่างงานสูง มีโอกาสที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย และอัตราเงินเฟ้อต่ำและไม่สูงขึ้นเลย ธนาคารกลางมักจะใช้นโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายเพื่อเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ยกตัวอย่างเช่น ประเทศเศรษฐกิจโลกที่สำคัญส่วนใหญ่ใช้นโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายมาตั้งแต่วิกฤตการเงินโลกในปี 2008

 

นโยบายทางการเงินแบบเข้มงวด

 

ถ้าเศรษฐกิจเติบโตรวดเร็วเกินไป ถ้าการเติบโตสูงเกินไปและมีอัตราว่างงานต่ำมากๆ ก็มีโอกาสที่อัตราเงินเฟ้อจะพุ่งสูงขึ้นซึ่งเป้าหมายหลักของธนาคารกลางเกือบทุกแห่งก็คือการคงอัตราเงินเฟ้อให้ต่ำเอาไว้ โดยปกติจะต่ำกว่า 2.0 เปอร์เซ็นต์ ในกรณีนี้ ธนาคารกลางมักจะใช้นโยบายทางการเงินแบบเข้มงวดเพื่อลดการเติบโตของเศรษฐกิจเพื่อให้อัตราเงินเฟ้อไม่พุ่งสูงกว่าเดิม

 

เครื่องมือของนโยบายทางการเงิน

 

แต่ละธนาคารกลางซึ่งเป็นตัวแทนรัฐบาลจะทำตามเป้าหมายนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายและแบบเข้มงวดให้สำเร็จได้ยังไงพวกเขามีเครื่องมือมากมายที่สามารถใช้ได้ซึ่งเครื่องมือหลักสามอย่างก็คือการปรับอัตราดอกเบี้ย มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณและการเปลี่ยนแปลงกำหนดการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องของธนาคาร เราจะไปดูเครื่องมือเหล่านี้กันทีละอย่าง

 

อัตราดอกเบี้ย

 

เครื่องมือหลักของนโยบายทางการเงินที่ธนาคารกลางสามารถใช้ได้ก็คือการปรับอัตราดอกเบี้ย ในประเทศส่วนใหญ่ ธนาคารกลางจะควบคุมอัตราดอกเบี้ยซึ่งให้ธนาคารพาณิชย์กู้ยืมในฐานะผู้ให้กู้ยืมแหล่งสุดท้าย (ยกตัวอย่างจากในสหรัฐฯ นี่คือตัวอย่างการคิดอัตรา) เมื่อปรับอัตราดอกเบี้ยแล้ว มักจะส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์ให้หรือกู้ยืมมาจากลูกค้า

 

มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ

 

เครื่องมืออีกอย่างที่กลายเป็นเครื่องมือพื้นฐานในศตวรรษที่ 21 คือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ โดยย่อแล้ว นี่คือตอนที่ธนาคารกลางใช้ตราสารหนี้ระยะสั้นในการซื้อและขายสินทรัพย์  ธนาคารกลางจะเพิ่มเงินเข้าไปในระบบธนาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการซื้อสินทรัพย์ และธนาคารจะให้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำลง เป็นการตอบแทนหรือลดเงินด้วยการขายสินทรัพย์เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น

 

การดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องของธนาคาร

 

ธนาคารกลางสามารถควบคุมการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องของธนาคารได้ นี่เป็นเงินทุนที่ธนาคารพาณิชย์ต้องมีไว้โดยมีสัดส่วนสัมพันธ์กับเงินฝากทั้งหมดของลูกค้าเพื่อใช้จ่ายหนี้ การเพิ่มอัตราการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องจะจำกัดการให้กู้ยืมของธนาคาร และเป็นนโยบายแบบเข้มงวด การลดอัตราการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องเป็นการปล่อยเงินทุน และเป็นนโยบายแบบเข้มงวด

 

นโยบายทางการเงินส่งผลต่อตลาด Forex อย่างไร

 

เครื่องมือของนโยบายทางการเงินแต่ละแบบส่งผลต่อค่าเงินต่างกัน แต่โดยรวมแล้ว ถ้าเครื่องมือถูกใช้และใช้แบบผ่อนคลาย มันมักจะทำให้ค่าเงินอ่อนลง โดยสกุลเงินจะมีค่าลดลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น (จากสกุลเงินที่มีค่าเท่ากัน) ซึ่งเป็นเพราะว่าปัจจัยทั้งสองอย่างนั้นเกื้อหนุนกันและกัน

อย่างแรก เหตุผลที่เครื่องมือแบบผ่อนคลายถูกใช้ก็เป็นเพราะเศรษฐกิจถดถอยหรือบ่งชี้ว่ามีโอกาสที่จะถดถอยในอนาคต ดังนั้นธนาคารกลางจึงมีความกังวลว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะลดลงต่ำกว่าระดับที่เหมาะสม  อัตราเติบโตต่ำทำให้เศรษฐกิจไม่ดึงดูดนักลงทุน ซึ่งจะทำให้สกุลเงินมีค่าต่ำลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ

อย่างที่สอง หากอัตราดอกเบี้ยมีโอกาสที่จะต่ำลงในเศรษฐกิจประเทศนั้นๆ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ดึงดูดนักลงทุน และก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ค่าเงินต่ำลง

ในทางกลับกัน ถ้านโยบายเป็นแบบเข้มงวด มันมักจะส่งผลในแง่ดีต่อค่าเงิน และเราจะเห็นว่าค่าเงินแข็งค่ามากกว่าค่าเงินอื่นๆ (จากสกุลเงินที่มีค่าเท่ากัน) และนี่เป็นเพราะสองปัจจัยเท่านั้น

เครื่องมือแบบเข้มงวดแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจมั่งคงซึ่งอาจมีความเสี่ยงจะเติบโตสูงเกินไป แต่มันก็ยังแสดงให้เห็นอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคงซึ่งดึงดูดนักลงทุนและดีต่อค่าเงิน  ยิ่งอัตราดอกเบี้ยสูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งดึงดูดนักลงทุนมากเท่านั้น และช่วยเสริมให้ค่าเงินแข็งแกร่งขึ้น

โดยตารางด้านล่างนี้จะสรุปได้ชัดเจนที่สุด

เครื่องมือนโยบาย ผ่อนคลาย/เข้มงวด ผลกระทบที่อาจเกิดต่อค่าเงิน
อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น เข้มงวด ค่าเงินสูงขึ้น
อัตราดอกเบี้ยลดลง ผ่อนคลาย ค่าเงินลดลง
ลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ เข้มงวด ค่าเงินสูงขึ้น
เพิ่มมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ ผ่อนคลาย ค่าเงินลดลง
เพิ่มอัตราการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่อง เข้มงวด ค่าเงินสูงขึ้น
ลดเพิ่มอัตราการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่อง ผ่อนคลาย ค่าเงินลดลง

 

ประเด็นสำคัญ

 

จากการสรุป ประเด็นสำคัญก็คือ:

  • มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาด Forex หนึ่งในนั้นคือนโยบายทางการเงิน
  • มีนโยบายทางการเงินหลังสองแบบคือแบบผ่อนคลายและแบบเข้มงวด
  • มีเครื่องมือของนโยบายทางการเงินหลักๆ สามอย่างคืออัตราดอกเบี้ย มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ และอัตราการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องของธนาคาร
  • เครื่องมือแต่ละแบบส่งผลต่อค่าเงินแตกต่างกัน แต่หลักคร่าวๆ ก็คือถ้านโยบายแบบผ่อนคลาย มักจะส่งผลเสียต่อค่าเงิน โดยสกุลเงินนั้นจะมีค่าลดลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ (จากสกุลเงินที่มีค่าเท่ากัน) ในทางกลับกัน ถ้านโยบายเป็นแบบเข้มงวด มันมักจะส่งผลในแง่ดีต่อค่าเงิน และเราจะเห็นว่าค่าเงินถูกมองว่ามีค่ามากกว่าค่าเงินอื่นๆ (จากสกุลเงินที่มีค่าเท่ากัน)
Screen and display of stock market, quotes and tickers

คว้าโอกาสของคุณ

ซื้อขายในตลาดขาขึ้นหรือขาลง
สเปรดทองคำเริ่มต้นที่ 0.7 pip
ราคาที่เหนือกว่าตลอด 24 ชั่วโมง
โพสล่าสุด
พร้อมที่จะ เริ่มซื้อขาย แล้วหรือยัง?
โพสต์ที่เกี่ยวข้อง
สมัครสมาชิกบล็อกของเรา
สำหรับข่าวสารล่าสุดและแหล่งข้อมูลการซื้อขาย โปรดส่งตรงไปที่กล่องจดหมายของคุณ
rotator.png

เรากำลังพาท่านไปสู่ Hantec Trader ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเรา

โปรดทราบว่า Hantec Trader ไม่รองรับลูกค้าจากสหรัฐอเมริกาหรือประเทศที่ถูกจำกัดอื่นๆ

Line-website.png