สกุลเงินรองหรืออัตราแลกเปลี่ยนข้ามสกุลเงิน อาจเป็นคำศัพท์ที่คุณไม่คุ้นเคย แต่มันหมายถึงการทำธุรกรรมระหว่างสองสกุลเงิน ซึ่งไม่ใช่ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) นี่หมายความว่าจะไม่มีการใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) เป็นตัวกลาง และเป็นการแลกเปลี่ยนสกุลเงินหนึ่งกับอีกสกุลเงินหนึ่งโดยตรง โดยปกติแล้ว สกุลเงินรองที่ใช้บ่อยที่สุดเกี่ยวข้องกับสกุลเงินอื่นที่มีการซื้อขายกันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในโลก เช่น เยนญี่ปุ่นและยูโร
- ประวัติศาสตร์การแลกเปลี่ยนสกุลเงิน
- สกุลเงินรองที่ใช้บ่อยที่สุด
- วิธีการคำนวณสกุลเงินรอง
- ข้อได้เปรียบของสกุลเงินรอง
- นักเทรดใช้สกุลเงินรองได้อย่างไรบ้าง
- ประเด็นสำคัญในการข้ามสกุลเงิน
ประวัติศาสตร์การแลกเปลี่ยนสกุลเงิน
ก่อนหน้าช่วงกลางศตวรรษที่ 20 การแลกเปลี่ยนสกุลเงินส่วนใหญ่จะดำเนินการโดยการแปลงสกุลเงินเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐก่อน แล้วจึงแปลงสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินที่ต้องการ ในทางประวัติศาสตร์ ที่เป็นแบบนี้เพราะความแข็งแกร่งและความเชื่อมั่นในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ก่อตัวขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งสกุลเงินหลายสกุลใช้อ้างอิงมูลค่า กระทั่งตรึงมูลค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่งที่สุดในช่วงเวลานี้ และเงินดอลลาร์สหรัฐถูกตรึงราคาเทียบกับทองคำ ทำให้ผู้คนมีความเชื่อมั่นในสกุลเงินดังกล่าว
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงเป็นสกุลเงินสำรองของโลกจนถึงทุกวันนี้ โดยกว่า 80% ของธุรกรรมในตลาดเงินตราต่างประเทศมีความเกี่ยวพันกับเงินดอลลาร์สหรัฐ เงินดอลลาร์สหรัฐยังคงครองตลาดอยู่ แม้ว่าการค้าโลกจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากสินค้าเกษตรและสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่ยังคงกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เช่น น้ำมัน ซึ่งหมายความว่าหลายประเทศที่นำเข้าสินค้าเหล่านี้ในปริมาณมาก เช่น จีนและออสเตรเลีย สำรองเงินดอลลาร์สหรัฐไว้เป็นจำนวนมากเพื่อที่จะซื้อสิ่งที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ถึงแม้ว่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะแข็งแกร่งและครองตลาดอย่างต่อเนื่อง แต่การเติบโตขึ้นของตลาดเงินตราต่างประเทศทำให้คู่สกุลเงินรองเข้าถึงได้และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สิ่งนี้นำไปสู่การเป็นที่สนใจของบางคู่สกุลเงิน ซึ่งเราจะพิจารณาเพิ่มเติมต่อไป เช่น สกุลเงินรองปอนด์อังกฤษ/เยนญี่ปุ่น ทำให้ง่ายต่อการแปลงสกุลเงินเหล่านี้โดยตรง และอาจเพิ่มการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ
สกุลเงินรองที่ใช้บ่อยที่สุด
แน่นอนว่าสกุลเงินรองที่ใช้มากที่สุดบางคู่เป็นคู่สกุลเงินที่ซื้อขายมากที่สุดและมีอยู่มากที่สุด ตัวอย่างทั่วไปคือ ยูโร/ปอนด์อังกฤษ ปอนด์อังกฤษ/เยนญี่ปุ่น ยูโร/เยนญี่ปุ่น และยูโร/ฟรังก์สวิส มีเพียงสองคู่สกุลเงินแรกเท่านั้นที่อยู่ในสิบคู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลก ส่วนที่เหลือทั้งหมดยังเป็นคู่สกุลเงินที่ใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงมีอำนาจเหนือกว่าในตลาดการเงิน
วิธีการคำนวณสกุลเงินรอง
โดยทั่วไปแล้ว สกุลเงินรองจะกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนของตัวเอง แต่ถ้าเราไม่มีอัตรานี้ เราสามารถคำนวณได้ค่อนข้างแม่นยำด้วยวิธีการด้านล่าง
เมื่อคำนวณว่าสกุลเงินรองควรมีค่าเท่าไหร่ เราต้องกำหนดสกุลเงินที่จะใช้เป็นอัตราฐานของเราก่อน ดังนั้นให้ตั้งค่าเท่ากับหนึ่ง สำหรับสกุลเงินรองทั้งหมดที่เกี่ยวพันกับเงินยูโร เงินยูโรจะกลายเป็นอัตราฐาน หากเกี่ยวพันกับเงินปอนด์อังกฤษ และไม่ใช้เงินยูโร จะใช้เงินปอนด์อังกฤษเป็นอัตราฐานแทน
เมื่อกำหนดสกุลเงินที่เราจะใช้เป็นอัตราฐานแล้ว คุณต้องหาอัตราแลกเปลี่ยนของแต่ละสกุลเงินเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยอัตราเหล่านี้เรียกว่าขาของสกุลเงินรอง เราต้องตรวจสอบว่ากำลังใช้ราคาเสนอซื้อ (ราคาซื้อ) หรือราคาเสนอขาย (ราคาขาย) กับอัตราแลกเปลี่ยนทั้งสองขา และเพื่อความง่าย เราสามารถตรวจสอบยืนยันว่าสกุลเงินแรกของเรา (เงินปอนด์อังกฤษ) เป็นอัตราฐานในการแลกเปลี่ยนเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นอัตราฐานในสกุลเงินที่สอง หากเป็นกรณีนี้ เราก็เพียงแค่คูณราคาเสนอซื้อ/ขายของทั้งสองขา ก็จะได้ราคาของสกุลเงินรอง
ตัวอย่าง: คำนวณเงินปอนด์อังกฤษ/เยนญี่ปุ่น
ปอนด์อังกฤษ/ดอลลาร์สหรัฐ: 1.15 (เสนอซื้อ)
ดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่น: 144.21 (เสนอซื้อ)
ปอนด์อังกฤษ/เยนญี่ปุ่น: 1.15 * 144.21 = 165.84 (เสนอซื้อ)
ข้อได้เปรียบของสกุลเงินรอง
ดังที่เราได้เห็นมาแล้ว สกุลเงินรองกลายเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น เนื่องจากการขยายตัวของตลาดและการซื้อขายเงินตราต่างประเทศในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 การแลกเปลี่ยนโดยตรงเหล่านี้มีข้อดีหลายประการสำหรับบุคคล บริษัท และนักเทรด ซึ่งเราจะลงรายละเอียดต่อไปในส่วนนี้ โดยปกติแล้ว สกุลเงินรองจะทำให้การทำธุรกรรมระหว่างประเทศง่ายขึ้น เนื่องจากมีขั้นตอนที่ต้องทำและสกุลเงินที่ต้องจัดการน้อยลง นอกจากนี้ ยังทำให้การทำธุรกรรมมีค่าใช้จ่ายถูกลงเนื่องจากใช้ค่าสเปรด (spread) สกุลเงินเดียวเท่านั้น สิทธิประโยชน์นี้ได้รับการต่อยอดจากข้อเท็จจริงที่ว่า สกุลเงินรองถูกใช้บ่อยมากขึ้นในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ซึ่งหมายความว่าสเปรดแคบลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสกุลเงินหลัก สิ่งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากความต้องการในการข้ามสกุลเงินเพิ่มขึ้น ทำให้ต้นทุนการทำธุรกรรมระหว่างประเทศลดลงไปอีก ค่าใช้จ่ายที่ลดลงนี้สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนในการคำนวณพื้นฐานของเราด้านบน ซึ่งคำนวณได้ว่าสกุลเงินรองคู่เงินปอนด์อังกฤษ/เยนญี่ปุ่นเป็น 165.84 เมื่อคำนวณผ่านดอลลาร์สหรัฐ แต่อัตราแลกเปลี่ยนจริงของคู่เงินปอนด์อังกฤษ/เยนญี่ปุ่น ณ เวลาที่เขียนคือ 165.34 ช่องว่างที่ดูเหมือนเล็กน้อยนี้สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากเมื่อมีการแลกเปลี่ยนเงินจำนวนมาก
นักเทรดใช้สกุลเงินรองได้อย่างไรบ้าง
นักเทรดสามารถใช้สกุลเงินรองได้หลายวิธีในการพยายามสร้างความได้เปรียบและทำกำไร ทางหนึ่งที่นักเทรดอาจใช้สกุลเงินรองได้คือเดิมพันกับสถานการณ์โลก ตัวอย่างง่ายๆ เช่น เบร็กซิต นักเทรดสามารถตั้งสถานะในทิศทางใดก็ได้โดยใช้คู่สกุลเงินยูโร/ปอนด์อังกฤษ ซึ่งจะใช้เงินทุนน้อยกว่า ซับซ้อนน้อยกว่า และค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการใช้ทั้งคู่สกุลเงินยูโร/ดอลลาร์สหรัฐและปอนด์อังกฤษ/ดอลลาร์สหรัฐเพื่อตั้งสถานะ นอกจากนี้ นักเทรดอาจต้องการใช้สกุลเงินรองทำการแลกเปลี่ยนคู่สกุลเงินหนึ่งโดยไม่ให้มีดอลลาร์สหรัฐอยู่ในนั้น หากคิดว่าสกุลเงินนั้นอาจได้รับผลกระทบเช่นกัน อีกเหตุผลหนึ่งที่นักเทรดจะใช้สกุลเงินรองคือสกุลเงินรองทำให้พวกเขามีทางเลือกมากขึ้นทั้งวิธีการเทรดและสิ่งที่เทรด ซึ่งสามารถเห็นได้จาก สกุลเงินหลักและสกุลเงินสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนที่เกี่ยวพันกับเงินดอลลาร์สหรัฐ การซื้อขายคู่สกุลเงินเหล่านี้ ซึ่งนักเทรดจำนวนมากทำ ไม่เพียงแต่จำกัดการแลกเปลี่ยนไว้ที่เจ็ดรายการเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการเก็งกำไรทางการค้าส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับว่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าหรือแข็งค่าในวันนั้นด้วย การซื้อขายสกุลเงินรองช่วยขจัดข้อจำกัดทั้งข้อดี/ข้อเสียของเงินดอลลาร์สหรัฐ และเปิดให้ทำการซื้อขายสกุลเงินอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมน้อยกว่า
ประเด็นสำคัญในการข้ามสกุลเงิน
ตอนนี้คุณควรเข้าใจแล้วว่าสกุลเงินรองคืออะไร ทำไมถึงเป็นรูปแบบการซื้อขายที่ได้รับความนิยม และทำไมคุณควรพิจารณาซื้อขายสกุลเงินรองใน Forex กับ Hantec Markets