เมื่อเทรดในตลาดฟอเร็กซ์ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจคอนเซ็ปต์ของจุดและ Pip ศัพท์เหล่านี้ทำหน้าที่เป็นหน่วยวัดพื้นฐานที่ระบุกำไรหรือขาดทุนในการเทรดฟอเร็กซ์ และการเข้าไปเทรดฟอเร็กซ์โดยไม่เข้าใจคอนเซ็ปต์เหล่านี้ก็เหมือนกับการเข้าสอบโดยไม่มีปากกา การเข้าใจ Pip และจุดเป็นอย่างดีจะช่วยเพิ่มความสามารถในการวิเคราะห์การเทรดและทำการตัดสินใจอย่างมีข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจ Pip และเปอร์เซ็นต์จุด วิธีการคำนวณ และเหตุใดจึงมีความสำคัญในการเทรดฟอเร็กซ์
สารบัญ:
จุด
จุดแสดงถึงค่าตัวเลขที่ใช้เพื่อแสดงการเปลี่ยนแปลงในรูปของเปอร์เซ็นต์ ในการเทรดฟอเร็กซ์ จุดไม่ได้เท่ากับ Pip (แม้ในบางบริบทจะใช้แทนกันได้ก็ตาม) แต่จะใช้เพื่ออธิบายการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่กว่าในอัตราแลกเปลี่ยนหรืออัตราดอกเบี้ย ดังที่คุณอาจเห็นในข่าว ตัวอย่างเช่น หากอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางประเทศหนึ่งเพิ่มขึ้นจาก 1% เป็น 3% นั่นหมายความว่ามีการเปลี่ยนแปลง 2 จุด โปรดสังเกตว่าเราไม่ได้พูดว่าเพิ่มขึ้น 2% เนื่องจากการเพิ่มขึ้น 2% หมายความว่าอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 2% จากมูลค่าเดิม ซึ่งจะเท่ากับการเพิ่มขึ้น 0.02% ในกรณีนี้ เปอร์เซ็นต์การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยจริงๆ แล้วคือ 200% ดังนั้นจึงอาจเป็นหายนะหากเข้าใจจุดกับเปอร์เซ็นต์สลับกัน จุดเป็นสิ่งสำคัญในการวิเคราะห์ข้อมูลทางเศรษฐกิจ นโยบายของธนาคารกลาง และผลกระทบต่อค่าเงิน
Pip คืออะไร?
Pip ย่อมาจาก “percentage in point (เปอร์เซ็นต์ในจุด)” เป็นหน่วยวัดที่เล็กที่สุดในการเทรดฟอเร็กซ์ ในตลาดอื่นๆ อาจเรียกว่าจุดพื้นฐาน แต่อาจทำให้เกิดความสับสนได้ดังที่เราจะอธิบายด้านล่าง โดยพื้นฐานแล้ว Pip เป็นหน่วยวัดที่เล็กที่สุดของคู่เงิน และเนื่องจากคู่เงินส่วนใหญ่มีทศนิยม 4 ตำแหน่ง จึงทำให้ Pip เท่ากับหนึ่งในร้อยของหนึ่งจุด โดยเป็นตัวแทนของทศนิยมตำแหน่งที่สี่ในคู่เงินส่วนใหญ่ ยกเว้นเงินเยนของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตัวแทนของทศนิยมตำแหน่งที่สอง สิ่งนี้ทำให้เกิดความสับสนเนื่องจาก Pip ถูกกำหนดให้เป็นการเพิ่มขึ้นในหน่วยที่เล็กที่สุดที่คู่เงินสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ใช่ค่าที่ตั้งไว้อย่างหน่วยจุด ตัวอย่างเช่น หาก GBP/USD ปรับขึ้นจาก 1.2466 เป็น 1.2467 นั่นก็คือเพิ่มขึ้น 1 Pip และหาก GBP/JPY ปรับขึ้นจาก 172.29 เป็น 172.30 ก็ถือว่าเพิ่มขึ้น 1 Pip เช่นกัน Pip ถูกใช้ในการคำนวณการเคลื่อนไหวของราคาคู่เงินและวัดผลกำไรหรือขาดทุน
ขนาดล็อตและ Pip
ขนาดการเทรด ซึ่งเรียกว่าขนาดล็อต จะระบุมูลค่าที่คุณเทรดในแต่ละ Pip ซึ่งขนาดล็อตมีอยู่สี่ประเภทด้วยกันในการเทรดฟอเร็กซ์ นั่นคือล็อตมาตรฐาน, มินิล็อต, ไมโครล็อต และนาโนล็อต โดยล็อตมาตรฐานประกอบด้วย 100,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก ขณะที่มินิล็อตคือ 10,000 หน่วย ไมโครล็อตคือ 1,000 หน่วย และนาโนล็อตคือ 100 หน่วยของสกุลเงินหลัก และล็อตเหล่านี้ก็ส่งผลต่อขนาดของ Pip สมมติว่าคุณเทรดมินิล็อตในคู่เงิน GBP/USD และราคาขยับไป 50 Pip การใช้ค่า Pip ที่กล่าวถึงข้างต้น (0.0001) ทำให้แต่ละ Pip ในกรณีนี้มีมูลค่า $1 หากราคาขยับไป 50 Pip ผลกำไรหรือขาดทุนของคุณจะเท่ากับ $50
เหตุใด Pip กับจุดจึงมีความสำคัญ
Pip และจุดเป็นสิ่งสำคัญในการเทรดฟอเร็กซ์ เนื่องจากเป็นการเพิ่มขึ้นของฐานซึ่งทุกสิ่งมีค่าด้วยเหตุผลหลายประการ:
- การคำนวณผลกำไรและขาดทุน: Pip ช่วยให้คุณสามารถคำนวณผลกำไรหรือขาดทุนได้อย่างแม่นยำ ด้วยการทราบล็อตของคุณ มูลค่าของแต่ละ Pip และจำนวน Pip ที่เปลี่ยนแปลง คุณสามารถระบุผลลัพธ์ทางการเงินได้
- การบริหารความเสี่ยง: Pip มีบทบาทสำคัญในการบริหารความเสี่ยง เทรดเดอร์ใช้คำสั่ง Stop-Loss ซึ่งวางห่างจากราคาเข้าเป็นจำนวน Pip เพื่อจำกัดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น
- การวิเคราะห์การเทรด: Pip ช่วยเทรดเดอร์ในการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของคู่เงินเมื่อเวลาผ่านไป ด้วยการติดตามจำนวน Pip ที่ทำได้หรือสูญเสียในการเทรด เทรดเดอร์สามารถระบุแนวโน้ม รูปแบบ และจุดเข้าหรือออกที่เป็นไปได้
- การตีความข้อมูลเศรษฐกิจ: จุดเป็นสิ่งสำคัญในการตีความข้อมูลเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ หรือตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอื่นๆ จะแสดงเป็นจุดเสมอ
สรุปใจความสำคัญเกี่ยวกับจุดและ Pip
Pip และจุดเป็นคอนเซ็ปต์สำคัญในการเทรดฟอเร็กซ์ที่เทรดเดอร์ทุกคนควรจะเข้าใจ Pips แสดงถึงหน่วยวัดที่เล็กที่สุดสำหรับการเคลื่อนไหวของราคา ขณะที่จุดจะใช้เพื่อแสดงการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่กว่านั้นในแง่ของเปอร์เซ็นต์ ทั้ง Pip และจุดมีบทบาทสำคัญในการคำนวณผลกำไรและขาดทุน การบริหารความเสี่ยง การวิเคราะห์การเทรด และการตีความข้อมูลเศรษฐกิจ คุณจะต้องทำความคุ้นเคยกับคอนเซ็ปต์เหล่านี้ก่อนที่จะทำการเทรดใดๆ